หน้าเว็บ

08 มิถุนายน 2554

** ความปรารถนาอันสูงสุดของชีวิตเทพนิลกาล **

       
         ชีวิตของข้าพเจ้าที่ได้พบพานความสุขที่สุดของชีวิตคือ การได้กราบคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา คุณมารดา คุณครูอุปัฌชาอาจาร์ย ข้าพเจ้ามีความสุข ที่ข้าพเจ้าได้ประพฤิตปฏิบัติ ทำแต่กรรมดีและสิ่งดี สิ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันมากที่สุดของชีวิต คือข้าพเจ้าไม่ได้ต้องการสำเร็จเป็นอรหันต์ เพราะข้าพเจ้าไม่ได้บวช แต่ข้าพเจ้าถือศีล แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันสูงสุดก่อนที่จะหมดลมหายใจหรือก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะขาดสะบั่นลงข้าพเจ้า ปรารถนาอยากจะสร้างพระ พระโคดม หรือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือ องค์พระศรีอริยะเมตตรัย มาประดิษฐิ์ฐานไว้ ณ.ที่แห่งนี้ ภูพานคำ จ.หนองบัวลำภู เพื่อให้ผู้คนทุกท่านได้ขึ้นมากราบไห้ว สักการะบูชา แม้ในยามที่ลมหายใจสุดท้ายของข้าพเจ้าจะขาดลง แต่ความดีความงามในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้จะคงอยู่ ณ.ที่แห่งนี้ต่อไป
         

           สิ่งที่ข้าพเจ้าจะสร้างไม่ใช่เป็นสิ่งของของผู้ใด แม้กระทั่งตัวของข้าพเจ้าเองและครอบครัวของข้าพเจ้าเองก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิจะครอบครอง ณ.ที่แห่งนี้  ที่ซึ่งข้าพเจ้าได้ปฏิบัติธรรมนี้ มีที่ดินอยู่จำนวน 14 ไร่ และเมื่อใดที่ข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลงไปแล้วนั้น ที่ตรงนี้ ข้าพเจ้าจะถวายให้เป็นที่พักสำนักสงฆ์ หรือที่ปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าจะไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดมีสิทธิครอบครอง แม้กระทั่งครอบครัวของข้าพเจ้าหรือแม้กระทั่งน้องสาวของข้าพเจ้า หรือหลานของข้าพเจ้าก็ตาม
          ข้าพเจ้าเกิดมาชาตินี้ได้เป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้มาพบพานกับศาสนาและศีลธรรมในช่วงที่ข้าพเจ้ามีอายุไดแค่ 20 กว่าๆ ตอนนี้ข้าพเจ้าถือว่าข้าพเจ้ามาพบพานศีลธรรมและธรรมะ ในช่วงที่สั้นมาก ในช่วงอายุขัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่มี บิดา มารดา ให้ท่านได้คอยดูความสำเร็จของข้าพเจ้า บิดา มารดา ของข้าพเจ้าได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ท่านไม่ได้เห็นความสำเร็จในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำในวันนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกผิด อยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าเสมอ เพราะว่าเดิมทีข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นคนดีมาก่อน ชีวิตของข้าพเจ้าไม่เคยมีความแน่นอนมาก่อน เมื่อข้าพเจ้ามาพบพานศีลธรรม ชีวิตของข้าพเจ้ามีความแน่นอนมีจุดยืนของชีวิต มีความดี มีความงามเกิดขึ้นมากมายในชีวิต ข้าพเจ้าไม่เคยคิดที่จะเข้ามากอบโกยเงินทองหรือมาแสวงหาผลประโยชน์เหมือนคนอื่นๆทั่วไป ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าความสุขที่แท้จริงของมนุษย์  คือ การให้ที่มิได้เรียกร้องเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งตอบแทน ข้าพเจ้าเรียนรู้การให้ผู้อื่นแล้วข้าพเจ้ามีความสุขกับการให้นี้


          ข้าพเจ้ามีนามว่า  เทพนิลกาล  ขอให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกบทนี้ ขอให้ท่านมากไปด้วยปัญญา มากไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง และมากไปด้วยความสุข และความดีงาม ทุกๆท่านเทอญ



2 ความคิดเห็น:

  1. “คือคน”

    ความรู้สึก ปัญญา เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาดีหรือคิดดี ถ้าบ่อเกิดปัญญาคิดไม่ดี ตั้งแต่ลมหายใจก็ไม่ดีตาม ทุกย่างก้าว ก็ใช่ว่าจะดี คำว่าดีเขียนเหมือนกัน ใช้เหมือนกัน แต่มีดีไม่เหมือนกัน แต่มีลมหายใจเข้าออกเหมือนกัน ต่างแค่ว่าลมหายใจของใครจะมีค่ามากกว่ากัน ทุกคนอยากเป็นนักปราชญ์ แต่คำว่าเป็นนักปราชญ์ นั้นดีตรงไหน ดีที่ว่าแบ่งปันความรู้หรือให้สิ่งที่คนไม่รู้ หรือแบ่งปันสิ่งที่คนอื่นไม่มีเหมือนคนเรา คือรู้จักคำว่าให้ผู้อื่น หรือมองโลก
    ในแง่ดี ไม่จงเกลียดจงชัง ไม่ให้ร้ายผู้ใด ให้คำว่ามีน้ำใจ
    นี่ซิ คำว่าคุณค่าของคำว่า .... คน

    นะ ติ ยัง โย อุ วา นะ ติ ตัง
    “ มหาเทพนิลกาล ”
    อาศรมภูพานคำ – หนองบัวลำภู

    ตอบลบ
  2. “ แพ้-ชนะ ”

    ความดีอยู่ที่การกระทำ ใครเล่าจะมองเห็นความดี อยู่ในใจตัวเอง เมื่อใจตัวเองไม่เรียนรู้คำว่าสู้ จะมีแต่คำว่าแพ้ตลอดไป เมื่อใจไม่เรียนรู้กับคำว่าชนะ ก็เป็นบ่อเกิด แห่งคำว่าแพ้ตลอดไป เมื่อใดรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า ลองกลับมามองใจตัวเอง ก็จะเป็นนักสู้ที่ดีตลอดไป
    ส่วนข้าพเจ้าแล้ว มีทั้งสู้ ทั้งถอย ข้าพเจ้าเรียนรู้ ทั้งสู้ ทั้งถอย เป็นเส้นขนาน

    นะ ติ ยัง โย อุ วา นะ ติ ตัง
    “ มหาเทพนิลกาล ”
    อาศรมภูพานคำ – หนองบัวลำภู

    ตอบลบ

Post Comment: